วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Wayne Rooney - Man City - Torres ( volume.1)

         เมื่อคืนเสาร์ที่ผ่านมา(12 ก.พ. 54) ได้ดูฟุตบอลคู่ระหว่าง แมนยู กับ แมนซิ ที่ โดยบอลคู่นี้ เตะกันที่ โอลแทรฟฟอร์ด (บ้านแมนยู)  เวลาบ้านเราประมาณ 1 ทุ่ม 45
         ขอออกตัวไว้ก่อนว่าผมเป็นแฟน แมนยู นะครับ ดังนั้นในมุมมองของผมย่อมเข้าข้างแมนยูเสมอ 555+
         ต้องบอกว่าในปัจจุบันนี้ เวลาแข่งกับแมนซิตี้ มีความสนุกขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะนะครับ เหตุเพราะ แมนซิตี้ ได้รับเม็ดเงินจำนวนมากจาก ชีค์ มาน ซู เจ้าของทีม ทำให้มีเงินในการซื้อนักเตะความสามารถดีๆ มาร่วมทีมหลายคนครับ
         นักเตะแต่ละคนของแมนซิตี้ มีความสามารถเฉพาะตัวที่ดีมาก ผมว่าถ้าเทียบกันตำแหน่งต่อตำแหน่ง ดีไม่แพ้แมนยูฯ เลย
        และเนื่องจากพรีเมียร์ชิพอังกฤษ ปีนี้มีความเข้มข้นมาก (แต่ละทีมก็ผิดพลาดได้ตลอด) สถานการณ์คือ แมนยูฯ อยู่ในอันดับ 1 ส่วน แมนซิ อันดับ 2 ( อิอิ) ลิเวอร์พูล อันดับ...เอิ่มมม...ไม่ล้อเค้านะครับ
        ดังนั้นแมตซ์นี้จึงมีความหมายระดับ ตัดสินแชมป์(รึเปล่า??) ของแมนซิตี้ ว่ากันว่าหากพวกเขาแพ้ตัดชื่อแมนซิตี้ ออกจากสารบบ ลุ้นแชมป์ อังกฤษไปเลยทีเดียว (อิอิ......คือจะ อิอิ เพื่อออ)
        ก่อนเกมมันมีสิ่งที่ผมคาใจอยู่อย่าง คือ ฟอร์มของ เวยน์ รูนี่ย์ ครับ คือหลังๆ ผมมองว่ารูนี่ย์ หมดไฟไปเยอะ ดูไม่เหมือนเดิม อาจเป็นเพราะปัญหาหลายอย่าง
        เรื่องข่าว คาว ของเขานอกสนาม อาการบาดเจ็บตั้งแต่นัดเจอบาเยิร์น มิวนิคใน แชมป์เปี้ยน ลีก ปีที่แล้ว (นานแล้วเหอะ) ที่ส่งผลให้ฟอร์มการทำประตู(เป็นกองหน้าต้องทำประตูเล่นดีอย่างเดียวไม่พอ หรือจะเถียง)ของรูนี่ย์ ดร็อป ลงไปเยอะเลย
       แต่ด้วยภูมิปัญญาของ เซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน จัดแผนกองหน้าตัวเดียวลงเล่นมันซะเลย โดยดร็อปเบอร์บาตอฟ ดาวซัลโวสูงสุดพรีเมียร์ลีก ณ เวลานี้ แล้วส่งน้อง เวยน์ ลงหน้าเดียวซะงั้น
       เอิ่มมม .....แล้วมันจะยิงได้ไหม๊ แต่ผมยังมั่นใจว่าด้วยคุณภาพเกมรุกของแมนยูฯ กับ ความย่ำแย่ในเกมรับของแมนซิตี้ ผมยังมั่นใจว่า แมนยูไม่แพ้( อ้าว)
       เริ่มเกมเริ่มส่อเค้าลางไม่ดีซะแร้วววว โดนบุกอยู่ตลอด อ้าว แต่ด้วยปรัชญาการทำทีมของ เซอร์อเล็กซ์ ไม่เน้นลีลา เน้นการนำบอลไปยิงแ_ร่ง เลย ทำให้แมนยูฯ ออกนำก่อนหมดครึ่งแรก (ซะงั้น)
       ครึ่งหลังตามฟอร์มครับพอนำก็ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตา บุก รอให้แมนซิตี้ บุกเข้าใส่ ด้วยมั่นใจว่ากองหลังเหนียวมาก (กองหลังแมนยูชุดนี้ถ้าไม่มี วิดิช เนี่ย ดูม่ายยด้ายยย)
        ในที่สุด เชโก้ หรือ เซโก้ (ตกลงมึงชื่ออารายหรา) ก็ตีเสมอโดยยิงบอลไปอัด ดาวิด ซิลบา ซะงั้น น้าซาร์หมดสิทธิ์ ทันที ............นาทีนั้นอุทานว่า ซวยละมึง
       ทันทีที่เสียประตูแมนยูตั้งหน้าตั้งตาบุกทันที (อ้าวทำไมพวกมึงไม่บุกก่อนโดนยิง แสรดดด)
       และทันทีเช่นกัน แมนซิ ก็เลกบุกทันที(อ้าว เข้าทางดิ แสรดดด)
       แมนยูมีจังหวะเสียวเช่นกันครับนานี่ เลี้ยง อย่างเทพ ด้วยความเร็วระดับ 8 กระโหลก(คืออะไร งง) บวกกับเทคนิคระดับเทพ พาบอลกระชาก จากนั้นยิงออก....แสรดดดด (ของนานี่เนี่ยมีเยอะครับต้องจัดซักข้อความให้เค้า)
      และแล้วก็มาถึงจังหวะลูกยิงสุดสวย ผมว่าสวยสุดในฤดูกาลนี้ เอ่อ ของชีวิตรูนี่ย์เลย
      นานี่ได้บอลทางด้านขวา จากนั้นเปิดบอล แฉลบกองหลัง แมนซิฯ (จำไม่ได้ว่าใคร) กองปานี ที่ประกบรูนี่ย์ เสียหลัก ล้ม บอลสูงเกินและย้อนไปด้านหลัง รูนี่ย์ โหม่งไม่ถึง
      ด้วยสัญชาตญาณกองหน้าระดับโลก (555+)รูนี่ย์กระโดดตีลังกากลับหลังยิงด้วยเท้าขวา(บางคนบอกว่าเป็น คากิ...กร๊ากก ไม่ขำ) บอลลอย ไม่ใช่ดิบอลพุ่มเข้ามุมด้านซ้ายของ โจ ฮาร์ท หมดสิทธิ์ ป้องกันใดๆ ทั้งสิ้น
      รูนี่ย์ ลุกมาและวิ่งไปที่ธง แล้วยืนตรง กางแขนออกสองข้าง (กรู นึกว่าไททานิก)
      นาทีนั้นผมคิดว่ารูนี่ย์ เหมือนปลดล็อกตัวเอง จากความกดดันทั้งหมด รวมทั้งตอบแทนความเชื่อมั่นของเฟอร์กี้ ที่มีต่อเค้าด้วยนะ เป็นภาพที่ สะใจ และเหมือน เค้าปลดปล่อยตัวเอง
      ก่อนหน้านี้ กรณีที่เค้าอยากย้ายไปแมนซิ อ่ะ โดนแฟนแอนตี้ ไปเยอะ ตอนนี้ก็ยังแอนตี้อยู่
      จากนั้นไม่มีอะไรตื่นเต้น รูนี่ย์ กลายเป็นฮีโร่ ครับนัดนี้ หวังว่าสำหรับรูนี่ย์ ฤดูกาลนี้จะเพิ่งเริ่มต้นนะ ครับสู้ๆ เดี๋ยวต่อคราวหน้าเรื่อง ของแมนซิ กับ ตอร์เรสสสส 555+